ยางรถยนต์หมดอายุเมื่อไหร่ รู้ได้ไม่ยาก

อายุยางรถยนต์รู้ได้ไม่ยาก

      หลายคนอาจจะมีความรู้ในการอ่านเลขวันที่ผลิตยางเป็น แต่ก็มีหลายคนที่มีความเชื่อความเข้าใจผิดๆ เกี่ยวกับอายุของยาง ว่ายางที่มีอายุเกินปีเป็นยางที่เสื่อมสภาพ หรือจะใช้งานได้ไม่ดีเท่ายางที่เพิ่งผลิตออกมา แต่จริงๆ แล้วยางสามารถเก็บได้นานเกิน 2 ปี โดยไม่เสื่อมสภาพเลยด้วยซ้ำ

     แม้จะเรียกขึ้นต้นว่ายาง และมีส่วนผสมของยางพารา แต่ก็มีส่วนผสมของยางพาราไม่มากนัก เนื่องจากยางรถยนต์ทำมาจากสารเคมี จึงทำให้มีความทนต่อการเก็บและการใช้งานอยู่ตลอดเวลา

     วันนี้เราจะมาบอกวิธีอ่านสัปดาห์และปีที่ผลิตกันนะครับ

 

     โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตัวเลขที่อยู่บนแก้มยาง หรืออาจจะระบุบบนหีบห่อของยาง แต่ส่วนมากจะอยู่บนแก้มยางแบบลบไม่ได้ ใกล้ๆ กับ DOT (United States - Department of Transportation)เช่น อย่างในรูป 0102 ความหมายของเลขนี้ก็คือ 2ตัวแรกเป็นสัปดาห์ที่ผลิต 2 ตัวหลังเป็นปีที่ผลิต ซึ่งในที่นี้คือ ผลิตเมื่อสัปดาห์ที่ 1 เมื่อปี ค.ศ.2002 แต่ถ้าเป็นยางที่ผลิตในปี ค.ศ.1990-1999 จะมีตัวเลขแค่ 3 หลัก เช่น 356 ความหมายก็จะเป็น ผลิตในสัปดาห์ที่ 35 ค.ศ.ที่ 1996

     จากการที่มีความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับยางเก่า จึงได้มีการศึกษาและวิจัยของบริษัทชั้นนำในไทยและต่างประเทศขึ้น ว่าจะมีผลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของยางเก่าจะด้อยกว่าหรือไม่

     ทางกระทรวงคมนาคมของสหรัฐอเมริกา ได้ตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับ ประสิทธิภาพยางรถยนต์ที่มีการเติมลมแล้ว (The Pneumatic Tier) ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 โดยระบุว่า ความร้อนที่เกิดขึ้นกับยางขณะใช้งาน  เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยางเสื่อมสภาพ  โดยรถที่ใช้ความเร็ว  120 กม./ชม. สามารถทำให้เกิดอุณหภูมิที่หน้ายางสูงถึง 75 องศาเซลเซียส แล้วถ้าแรงดันลมยางน้อยกว่าปกติ ก็จะยิ่งทำให้ความร้อนหน้ายางสูงขึ้นไปอีก

     ทางด้านประเทศไทยได้มีการทดสอบระหว่างยางที่มีวันผลิตต่างกัน 1 ปี โดยทดสอบในรถยนต์ที่ขับด้วยความเร็ว 230 กม./ชม. ต่อเนื่องนาน 60 นาที ซึ่งผลที่ออกมาพบว่า ประสิทธิภาพของยางแตกต่างกันไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ รวมทั้งยังมีความสามารถในการบรรทุกหนักและวิ่งเป็นระยะทางไกล ตลอดจนความแข็งแรงของหน้ายางและโครงสร้างยางไม่แตกต่างกันอีกด้วย

     นอกจากนั้น TUV Rheinland Group Ltd ได้ทดสอบว่าวันผลิตยางที่แตกต่างกัน จะมีผลต่อการเกาะถนน, การควบคุมการขับ และการเบรคของยางหรือไม่ โดยทดสอบระยะการเบรคที่ความเร็ว 80 กม./ชม. จนกระทั่งหยุดนิ่ง ซึ่งผลการทดสอบยางที่มีวันผลิตแตกต่างกัน มีความประสิทธิภาพทั้ง 3 ด้านแทบไม่แตกต่างกัน

 แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าการซื้อยางที่ผลิตมาไม่นานนั้น ย่อมสบายใจและมั่นใจได้มากกว่า แต่ถ้าซื้อยางที่เก็บไม่เกิน 2 ปี ก็ไม่ต้องกังวลอะไร แถมยังไม่ต้องเสียเวลาหายางที่สดใหม่อีกด้วย ซึ่งจะเป็นอะไรที่เสียเวลาเป็นอย่างมาก จึงควรที่จะตระหนักถึงประเภทการใช้งาน ขนาดที่ถูกต้อง และดอกยางมากกว่า เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมากกว่าปีที่ผลิต


ที่มา : boxzaracing