แอบดูสเปค Mazda CX-3 เวอร์ชั่นเครื่องดีเซล Skyactiv D จากญี่ปุ่น

หลังจากแฟนๆชาวไทยที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอย Mazda CX-3 สุดเท่ห์ ถึงกับออกอาการช้ำใจจนอยากกินน้ำใบบัวบกเพราะ มาเลเซียจะเปิดตัวก่อนไทยในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่ที่ญี่ปุ่นทาง Mazda ได้เปิดตัวรถ B-Car Crossover SUV รุ่นล่าด้วยเช่นกันแต่ว่า Mazda CX-3 ในเวอร์ชั่นญี่ปุ่นนี้จะขายแค่เครื่องยนต์ดีเซล Skyactiv-D เท่านั้น

ไฮไลท์เด็ดของ MazdaCX-3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น คันนี้ อยู่ที่เครื่องดีเซล SKYACTIV-D ซึ่งเป็นเครื่องเดียวกันอยู่ในรุ่น Mazda 2 ที่จำหน่ายอยู่ในเมืองไทย ณ ตอนนี้ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุดถึง 105 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดเพิ่มขึ่นจากเดิมอีก 20 นิวตันเมตร เป็น 270 นิวตันเมตรที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที อัตราการสิ้นเปลืองที่ทางทีมงาน Mazda ได้เคลมไว้ ทำได้ 25 กม./ลิตร และได้พัฒนาระบบเสียงเครื่องยนต์ให้เงียบขึ้นกว่าเดิมโดยมีให้เลือกทั้งเกียร์ออโต้ SKYACTIV-Drive หรือ เกียร์ธรรมดา Skyactiv-MT พร้อมระบบ I-Stop ระบบหยุดการทำงานของเครื่องยนต์ชั่วคราวเมื่อรถหยุดนิ่งสนิท

รูปลักษณ์ภายนอกของ CX-3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่น ยังคงเป็นเอกลักษณ์ของรถ Mazda ทุกรุ่นด้วยดีไซน์แบบ Kodo Design ทั้งด้านหน้า ด้านข้างและด้านท้าย อย่างโดดเด่น ด้านภายในโดดเด่นไม่แพ้ภายนอกด้วยเบาะนั่งทูโทนสีขาวดำ และแผงตกแต่งสีแดงที่แผงประตูและใต้คอนโซลหน้าและรุ่นท็อปสุดจะมีระบบระบบเพื่อควาบันเทิง MZD Connect

ด้านความปลอดภัย i-ActivSense นั้นให้มาครบและออฟชั่นความปลอดภัยเหล่านี้จะกลายเป็นสเปคมาตรฐานที่จะจำหน่ายทั้งในญี่ปุ่นและทั่วโลกของ Mazda CX-3 ทั้ง ระบบล็อคความเร็วอัตโนมัติที่ควบคุมด้วยระบบเรดาร์หรือ Mazda’s Radar Cruise Control system ระบบไฟหน้า AFS ปรับองศาไฟหน้าตามโค้ง ระบบ RVM คอยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในมุมจุดที่สายตาผู้ขับมองไม่เห็น ระบบ SCBS ช่วยหยุดรถอัตโนมัติในเมื่อพบสิ่งกีดขวางในเวลากลางคืนและขับขี่ในชีวิตประจำวัน

Mazda CX-3 เวอร์ชั่นญี่ปุ่นนี้มีให้เลือกทั้งขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ AWD และจะจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายที่ญี่ปุ่นทั่วประเทศ โดยราคาเริ่มต้นที่ 2,376,000 เยนญี่ปุ่นหรือ 641,520 บาทไทยในรุ่น XD ขับหน้า จนถึงรุ่นท็อป XD Touring L Package AWD ในราคา 3,024,000 เยนญี่ปุ่นหรือ 816,480 บาทไทย แต่สำหรับแฟนๆ Mazda ชาวไทยหัวใจ Zoom-Zoom ที่ยังรอคอย รุ่นนี้อยู่ละก็ไตรมาส 3 ปีนี้ ได้เจอตัวจริงเสียงจริง กันเสียที

ที่มา ข้อมูลและรูปภาพ :  autodeft